ความสำเร็จของสโมสร ลิเวอร์พูล ที่สามารถคว้าแชมป์ “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” มาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งถือเป็นการกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้อีกครั้งในรอบ 30 ปี
นี่จึงนับเป็นเรื่องที่สร้างความชื่นมื่นให้กับสาวก “เดอะ ค็อป” ทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในเมืองไทย ที่มีแฟนบอลของสโมสรฯแห่งนี้มากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ และหนึ่งในนั้นคือ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทัพ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เป็นแฟนตัวยงของ “หงส์แดง” มาอย่างยาวนาน
อะไรที่ทำให้ “โค้ชโอ่ง” ชื่นชอบสโมสรแห่งนี้ นักเตะขวัญใจของเขาคือใคร ผ่าแทคติกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เคล็ดลับความสำเร็จของกุนซือชาวเยอรมัน และทีมไหนจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า ติดตามทั้งหมดได้ใน “BG TALK”
Q : ความรู้สึกที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกในรอบ 30 ปี
A : “รู้สึกดีใจครับที่ ลิเวอร์พูล กลับมาคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้ง จริงๆมันเริ่มมีความหวังตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ที่ได้ลุ้นแชมป์จนถึงช่วงท้ายฤดูกาล สุดท้ายก็พลาดไปแต่ก็ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ปลอบใจแทน ที่สำคัญด้วยตัวผู้เล่น ฟอร์มการเล่นของทีม จากฤดูกาลที่แล้วผมก็มองว่าฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล น่าจะประสบความสำเร็จได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ได้แชมป์ลีกจริงๆ”
Q : จุดเริ่มต้นในการเชียร์ ลิเวอร์พูล
A : “ลิเวอร์พูล เป็นทีมต่างประเทศทีมแรกที่ผมรู้จัก ในยุคนั้นการติดตามข่าวสารยังไม่ง่ายเหมือนสมัยนี้ สมัยเด็กๆผมมักจะได้ข่าวความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล อยู่หลายครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ ในยุคนั้นแข่งอย่างไรก็ชนะ เล่นอย่างไรก็เป็นแชมป์ ก็ติดตามมาเรื่อยตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน”
Q : เสน่ห์ของ ลิเวอร์พูล คืออะไร
A : “ผมชื่นชอบบรรยากาศการเชียร์ของแฟนบอล ลิเวอร์พูล มากโดยเฉพาะเวลาเล่นในสนามแอนฟิลด์ รังเหย้าของพวกเขา มันเต็มไปด้วยมนต์ขลัง เร้าใน สนุก เป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้กับนักเตะ ซึ่งผมเองก็เคยไปสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้มาแล้ว ยอมรับว่าเป็นอะไรที่ประทับใจมาก”
Q : นักเตะขวัญใจของตัวเองคือใคร
A: จริงๆมีหลายคนนะแต่คนที่ชอบมากที่สุดคงเป็น เอียน รัช เขาเป็นนักเตะศูนย์หน้าที่ไม่ว่าจะในหรือนอกกรอบเขตโทษเขาจะยิงประตูได้เสมอ เป็นกองหน้าที่เก่งมากคนหนึ่งในยุคนั้น และตอนที่ผมเริ่มเล่นฟุตบอลใหม่ๆก็เล่นกองหน้า จึงทำให้ชื่นชอบสไตล์การเล่นของ เอียน รัช มากเป็นพิเศษ”
Q : ยังจำความรู้สึกในตอนที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกเมื่อ 30 ปีที่แล้วได้หรือไม่
A : ยังจำได้เสมอ แต่ตอนนั้นมันก็ไม่ได้รู็สึกดีใจ หรือ ตื่นเต้นอะไรเป็นพิเศษเหมือนครั้งนี้ เพราะอย่างที่บอกว่าในยุคนั้น ลิเวอร์พูล แข่งอย่างไรก็ได้แชมป์ แม้อาจจะมีพลาดไปบ้าง แต่สุดท้ายก็กลับมาคว้าแชมป์ได้ จนรู้สึกชินกับความสำเร็จของสโมสรแห่งนี้”
Q : จากวันนั้นคิดหรือไม่ว่าจะต้องรออีกถึง 30 ปี กว่าจะกลับมาคว้าแชมป์ลีกอีกครั้ง
A : “ไม่คิดเลยครับ เพราะหลังจากที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกได้ในฤดูกาล 1989-1990 แม้จะพลาดในปีต่อมาคือฤดูกาล 1990-1991 ด้วยการจบอันดับ 2 ผมก็ยังมั่นใจว่าจะกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งแน่นอน แต่พอเปลี่ยนจาก ดิวิชั่น 1 มาเป็น พรีเมียร์ลีก มันก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย ลิเวอร์พูล อันดับเริ่มตกลงมาเรื่อยๆ ปล่อยให้ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือว่า อาร์เซนอล ขึ้นมาประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นทีมไม่มีลุ้นแชมป์อีกต่อไป”
Q : มุมมองต่อแทคติกของ เจอร์เก้น คล็อปป์
A : “เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นโค้ชกระตุ้นนักเตะได้ดี จริงๆนักเตะชุดนี้ของ ลิเวอร์พูล ไม่ถือว่าเป็นเกรด เอ ระดับโลกทุกคน แต่เขาก็สามารถผสมผสานจนได้ทีมที่ลงตัว มีเกมรุกที่ดุดัน เกมรับที่เหนียวแน่น เขาใช้ความสามารถของนักเตะเป็นรายบุคคล รู้ว่าจะต้องใช้นักเตะแต่ละคนอย่างไร ลิเวอร์พูล ในยุคนี้จะเป็นทีมที่เปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้เร็ว มีความแม่นยำ โดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ หรือว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ทำหน้าที่ในเกมรุกโจมตีคู่ต่อสู้ แดนกลางเขาจะมีทั้งตัวตัดเกม ตัวเชื่อมเกม ส่วนเกมรับมี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ค่อยคุมแผงหลัง จึงทำให้เขามีทีมที่แข็งแกร่ง”
Q : สไตล์การเล่นระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นอย่างไร
A : “คงจะไม่เหมือนกัน เพราะ บีจี ปทุมฯ เล่นระบบ 3-4-3 หรือ 3-5-2 แต่ ลิเวอร์พูล เท่าที่ดูจะเล่นระบบ 4-3-3 แต่ก็มีบางอย่างในระบบของ ลิเวอร์พูล ที่เราพยายามจะนำมาปรับใช้กับทีม โดยเฉพาะการเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกหรือรุกเป็นรับนั่นเป็นสิ่งที่เราจะพยายามฝึกและนำมาใช้กับทีมให้ดีที่สุด”
Q : คิดว่าทีมชุดนี้ของลิเวอร์พูลจะประสบความสำเร็จต่อเนื่องหรือไม่
A : “ผมเชื่อว่าถ้ายังคงทีมชุดนี้เอาไว้ ลิเวอร์พูล ก็จะยังเป็นทีมที่แข็งแกร่งอยู่เสมอ แต่จะคว้าแชมป์ได้อีกหรือไม่ก็ต้องรอดูสถานการณ์ในตอนนั้นอีกครั้ง โดยเฉพาะการเสริมทัพของแต่ละทีม ที่สำคัญการคว้าแชมป์จะไม่ง่ายเหมือนปีนี้อย่างแน่นอน”
Q : คู่แข่งที่หน้ากลัวของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า
A : “ผมยังมองว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเป็นทีมที่น่ากลัวเสมอ ปีนี้พวกเขาอาจจะพลาดไป แต่นั่นก็จะทำให้เขามีความกระหายมากกว่าเดิม ลงทุนมากกว่าเดิม แต่ก็จะไม่ประมาททีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ช่วงหลังฟอร์มกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ เชลซี ก็ได้ผู้เล่นใหม่ฝีเท้าเยี่ยมเข้ามาหลายคน ฤดูกาลหน้าจึงเป็นอะไรที่น่าสนุกอย่างแน่นอน”
Q : คิดว่าปีนี้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะประสบความสำเร็จเหมือน ลิเวอร์พูล ได้หรือไม่
A : ผมเชื่อมั่นอย่างนั้นนะ ปีนี้เราได้ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ระดับชาติเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีม ทำให้ผมมั่นใจว่าเรามีดีพอที่จะคว้าแชมป์ใดแชมป์หนึ่งได้ จริงๆผมก็ยังตอบไม่ได้ว่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์ลีกได้เมื่อไร แต่ที่แน่ๆไม่ต้องรอนานถึง 30 ปี เหมือน ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน”
ทั้งหมดเป็นความรู้สึกของอดีตนักเตะทีมชาติไทยอย่าง “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน ที่มีต่อความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล สิ่งที่น่าติดตามต่อจากนี้คือเขาจะพา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จได้เหมือนทีมรักที่เขาเชียร์ได้หรือไม่ สาวก “เดอะ แรบบิท” คงต้องมาติดตามและให้กำลังใจกับฤดูกาล 2020 ที่กำลังจะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้ง